Visa Refusals เราจะถูกปฏิเสธวีซ่าได้ถึงกี่ครั้ง? (Part 2)

Posted on 20 February 2024

Blog Post

ต่อเนื่องจาก Part 1 นะคะ ว่าลูกค้าสาวชาวอินเดียได้ถูกปฏิเสธ Partner Visa เป็นครั้งที่สองโดยที่เจ้าหน้าที่ให้เหตุผลว่าผู้สมัครยื่นเอกสารที่มีข้อมูลเท็จอยู่ด้วย ทางผู้สมัครอ่านจดหมายที่ถูกปฏิเสธวีซ่าที่ได้รับแบบไม่คาดคิดแล้วก็งงไปหลายรอบเพราะเหตุผลที่เจ้าหน้าที่ให้มามันน่างงจริง ๆ ค่ะ

ต้นเหตุที่ทางเจ้าหน้าที่บอกว่าเค้าให้ข้อมูลเท็จคือ เค้าย้อนไปตั้งแต่ตอนที่ผู้สมัครยื่นขอ Partner Visa เมื่อ 4 ปีก่อน ว่าในจดหมายอธิบายความสัมพันธ์นั้นเขียนเนื้อหาประมาณว่า “ฉันได้เจอกับแฟนของฉันและเราสองคนก็ถูกชะตากันตั้งแต่แรกพบ เราเข้ากันได้ดีมาก เราตัดสินใจแต่งงานกันหลังจากที่เจอกันไม่นาน โดยที่ฉันได้โทรศัพท์ไปบอกกับครอบครัวของฉันที่อาศัยอยู่ที่อินเดียก่อนจะแต่งงานเพื่อขออนุญาตแต่งงานกับแฟนชาวออสซี่ ทางครอบครัวของฉันรวมถึงลุง ป้า น้า อา ก็มีความยินดี และให้พรให้เราทั้งสองรักกันไปนาน ๆ” เพียงแค่ประโยคเดียวเท่านั้นค่ะที่ทำให้วีซ่าถูกปฏิเสธรอบสอง!!

เนื้อหาในจดหมายอ่านแล้วก็ดูเป็นเรื่องปกติธรรมดาใช่ไหมคะ แล้วมันเป็นข้อมูลเท็จตรงไหน เพราะเราก็อ่านมันผ่านไปเฉย ๆ ไม่เห็นว่าจะมีปัญหาอะไร แต่เจ้าหน้าที่ Immigration เค้าไปตามสืบเรื่องราวมากกว่านั้นค่ะ ไม่ใช่ว่าเค้าโทรไปสอบถามกับครอบครัวนะคะ ที่พีคสุดคือ เจ้าหน้าที่ในออสเตรเลียที่ดูเคส ส่งเจ้าหน้าที่ Australian Embassy ที่ทำงานในประเทศอินเดียบุกไปถึงบ้านเกิดของสาวผู้สมัครวีซ่า เพื่อไปพูดคุยกับครอบครัวค่ะ ว่าก่อนที่เค้าจะแต่งงาน เค้าได้โทรศัพท์มาบอกและขออนุญาตจริง ๆ รึเปล่า ทางพ่อแม่ของเจ้าสาวก็บอกว่าใช่โทรมาบอก แต่พอถามถึง ลุง ป้า น้า อา (คิดว่าในหมู่บ้านเค้ามีญาติ ๆ หลายๆ คนที่อยู่ระแวกเดียวกันค่ะ) ลุง ป้า น้า อาบอกว่า ไม่เห็นโทรมาหาเค้าเลย 5555 ไม่รู้เรื่องว่าจะแต่งงาน คือรู้อีกทีก็คือแต่งงานไปเรียบร้อยแล้วค่ะ แป่ว!!!

เจ้าหน้าที่เอาเรื่องนี้มาเป็นเหตุผลว่าทางผู้สมัครให้การเท็จในเอกสารประกอบการยื่นวีซ่าค่ะ เพราะว่าไปสอบถามมาแล้ว ลุง ป้า น้า อาไม่ทราบเรื่องที่จะแต่งงาน ก็เลยปฏิเสธวีซ่าของเค้าค่ะ ทางผู้สมัครก็ยอมรับนะคะ ว่าตอนที่เขียนจดหมายตอนที่สมัครวีซ่า ก็เขียนตามความจริง แต่ว่าอาจจะมีการใส่ไข่ แต่งเรื่องเสริมนิดหน่อยให้ดูดี สรุปว่าเรื่องยิบย่อยแค่นี้ กลายเป็นสาเหตุที่ทำให้ถูกปฏิเสธวีซ่าครั้งที่สองได้ค่ะ มันคาดไม่ถึงจริง ๆ เลยว่าเจ้าหน้าที่เค้าจะตามสืบสวนไปถึงบ้านเกิดขนาดนี้ จากข้อความในจดหมายเพียงแค่ประโยคเดียว (ไม่รู้ว่าเจ้าหน้าที่เป็นแฟนเก่าของผู้สมัครรึเปล่า ถึงตามล้างแค้นกันมากขนาดนี้ 555)

สรุปว่าเคสนี้ผู้สมัครก็ไปต่อที่การอุทธรณ์เหมือนเดิม จ่ายเงินให้กับทาง AAT อีกรอบนึง แต่หลังที่รอประมาณปีกว่า ก็ได้ไปไต่สวนกับทาง AAT พี่คิดว่าทาง AAT member ก็คงเกาหัวอยู่แน่ ๆ ตอนที่อ่านเหตุผลในการถูกปฏิเสธครั้งนี้ แต่สรุปว่าไต่สวนไปมา ทาง AAT member เห็นว่าผู้สมัครไม่ได้มีความตั้งใจบิดเบือนข้อมูล และอีกอย่างคือเห็นว่าทางผู้สมัครและสปอนเซอร์คบกับมานานแล้ว 6 ปี ก็คิดว่าสมควรที่จะได้รับ Partner Visa ตามที่สมัครไปค่ะ

สรุปว่าเรื่องนี้ก็จบลงด้วยดีนะคะ เพราะว่าหลังจากทาง AAT ตีเคสกลับไปที่ Immigration Department คราวนี้รอไม่นาน ทางผู้สมัครก็ได้รับข่าวดีอนุมัติวีซ่าค่ะ สรุปว่าตั้งแต่ยื่นใบสมัครรอ Partner Visa ไป 6 ปีกว่า ใช้เวลานานมาก ๆ เลยค่ะ

จริง ๆ แล้วเคสนี้คิดว่าทางผู้สมัครอาจจะมีเอกสารหรือว่าข้อมูลบางอย่างที่น่าสงสัย หรือว่าเจ้าหน้าที่ Immigration ได้ข้อมูลอะไรมาบางของสาวอินเดียผู้นี้ เลยทำให้ถูกตรวจเช็คละเอียดยิบขนาดนี้ค่ะ เพราะว่ายังไม่เคยเจอเจ้าหน้าที่เคสไหนโหดเท่านี้มาก่อนเลยค่ะ ตามกันไปถึงบ้านเกิด

อีกสิ่งที่เราเรียนรู้จากเคสคือ เวลาส่งเอกสารให้กับทาง Immigration Department เราจะต้องเขียนและให้ข้อมูลเรื่องจริงเท่านั้น เพราะว่าเจ้าหน้าที่สามารถจะปฏิเสธวีซ่าของเราด้วยเหตุผลว่าเราให้ข้อมูลเท็จ หรือเอกสารปลอมได้ ถึงแม้ว่าจะเป็นข้อมูลเล็ก ๆ น้อย ๆ ที่เราไม่ได้ใส่ใจ ต้องตรวจเช็คให้ละเอียดจริง ๆ ค่ะ เพราะว่าถ้าวีซ่าถูกปฎิเสธแล้วจะต้องเสียเงินและเสียเวลาอีกเยอะเลย หรือว่าอาจจะเสียโอกาสในการได้ PR ประเทศออสเตรเลียด้วยนะคะ

Amy @ I-Migration

Registered Migration Agent (MARN 1385337)

section background image

Need Visa Pathway Advice? We're here to help.