Visa Journey: ถูกแคนเซิลวีซ่าท่องเที่ยวแบบไม่ได้ตั้งตัว
Posted on 20 February 2024
Posted on 20 February 2024
สวัสดีค่ะ
ช่วงนี้ได้ยินมาหลายเคสนะคะ ที่บางคนถือวีซ่าท่องเที่ยวของออสเตรเลียแบบ 1 ปีหรือว่า 3 ปี Multiple Entries แต่ว่าวีซ่าท่องเที่ยวถูกยกเลิกกลางคันหลังจากที่มาเที่ยวออสเตรเลียค่ะ
จริง ๆ แล้วเคสแบบนี้ไม่ค่อยเกิดขึ้นบ่อยนะคะ เพราะมันน่าแปลกว่าทางเจ้าหน้าที่สถานทูตเค้าจะตามมายกเลิกวีซ่าท่องเที่ยวภายหลังจากที่อนุมัติไปแล้ว โดยที่ผู้ถือวีซ่าไม่ได้ทำอะไรผิด แต่พี่มีเคสตัวอย่างที่จะเล่าให้ฟัง เกิดขึ้นจริง ๆ กับลูกค้าของเราค่ะ
น้อง J ลูกค้าของเราได้รับวีซ่าท่องเที่ยวประเภท 1 ปี Multiple Entries เดินทางเข้าออกได้ไม่จำกัด โดยที่สามารถอยู่ในประเทศออสเตรเลียได้ 3 เดือนจากวันที่เดินทางเข้ามาค่ะ น้อง J มีแฟนอยู่ที่ออสเตรเลีย หลังจากที่ได้รับอนุมัติวีซ่าท่องเที่ยว จากเดิมที่ตั้งใจจะมาเที่ยวออสเตรเลียแค่สามอาทิตย์ ก็กลายเป็นอยู่ยาวเกือบจะครบสามเดือนค่ะ เพราะแฟนอยากให้อยู่ด้วยนาน ๆ น้องเค้าตัดสินใจลาออกจากงานเลยค่ะ โทรไปบอกเจ้านายว่าไม่กลับไปทำงานแล้วนะ ซึ่งมันก็เกิดขึ้นได้จริงนะคะ ว่าผู้ถือวีซ่าเปลี่ยนแผนการท่องเที่ยวค่ะ
หลังจากที่น้องลูกค้าได้กลับไทยไปประมาณ 2 อาทิตย์ ก็เดินทางกลับเข้าออสเตรเลียอีกค่ะ ครั้งนี้มาอยู่ประมาณเดือนกว่า และก็ได้มาปรึกษากับเราว่าอยากจะทำเรื่อง Partner Visa กับพี่ค่ะ พี่ก็ได้อธิบายรายละเอียดว่าจะต้องเตรียมตัวเก็บหลักฐานอย่างไรบ้าง ซึ่งน้องเค้าบอกว่าขอกลับไทยไปเตรียมเอกสารก่อน แล้วกลับมาคราวหน้าจะมายื่นสมัคร Onshore Partner Visa ค่ะ ซึ่งก็คิดว่าไม่น่าจะมีปัญหาอะไร
สรุปว่าน้อง J เค้ากลับไทยไปเที่ยวพร้อมกับสปอนเซอร์ และจะกลับมาที่ออสเตรเลียเป็นครั้งที่ 3 เพื่อจะมายื่น Partner Visa ที่ออสเตรเลีย แต่ตอนที่จะกลับมาเค้าดันมีปัญหาตอนเช็คอินที่สนามบินค่ะ ทางเจ้าหน้าที่การบินไทยแจ้งว่าเค้าไม่มีวีซ่าเดินทางไปออสเตรเลีย เค้าก็งงว่าเป็นไปได้อย่างไรเค้าเพิ่งจะกลับมาจากออสเตรเลีย 2-3 อาทิตย์ที่ผ่านมาเอง😱
เจ้าหน้าที่การบินไทยก็ยืนยันว่าเช็คแล้วไม่มีวีซ่าจริง ๆ แต่ลูกค้าก็ยืนยันว่าเค้ามีวีซ่าท่องเที่ยว พร้อมส่งหลักฐาน Visitor Visa Grant Notice ให้เจ้าหน้าทีสายการบินดู แต่เจ้าหน้าที่ก็เช็คแล้วเช็คอีกว่าน้อง J ไม่มีวีซ่า ไม่สามารถให้น้อง J ขึ้นเครื่องบินไป Melbourne ได้จริง ๆ สรุปว่าในวันนั้นทางสปอนเซอร์ก็ต้องยกเลิกตั๋วเครื่องบินค่ะ ทั้งสองคนไม่มีใครได้บิน และก็งงกันว่าเกิดอะไรขึ้นกับวีซ่า
พอกลับไปถึงบ้านน้องเค้าก็เลยไล่เช็คอีเมลใหม่ แล้วดันเจออีเมลไปอยู่ใน Junk Mail ซึ่งเป็นอีเมล์ Cancellation Notice ที่ทาง Immigration Department ส่งมาให้เค้า คราวนี้ก็ช็อคกันไปใหญ่เลยค่ะ เพราะว่าน้องไม่ได้ทำผิดกฎอะไรของวีซ่าเลย ไม่ได้อยู่เกินเวลาที่กำหนดด้วย
เนื้อหาใน Cancellation Notice หลัก ๆ แล้วก็เขียนว่า ตอนที่น้อง J สมัครวีซ่าท่องเที่ยว น้องมีงานทำประจำ น้องบอกว่าจะมาเที่ยวแค่ชั่วคราวสามอาทิตย์ แต่ตาม Immigration Records เค้าเห็นว่าน้องได้อยู่ในออสเตรเลียนานเกินจากข้อมูลเดิมที่ให้มาในวันที่สมัคร (แต่ว่าไม่ได้อยู่เกินวีซ่านะคะ) ใน 6 เดือนที่ผ่านมา ลูกค้าอยู่ในประเทศออสเตรเลียทั้งหมด 155 วันค่ะ
นอกจากนี้ทางเจ้าหน้าที่ได้โทรศัพท์ไปเช็คกับทางนายจ้างเดิมของน้อง ทางนายจ้างก็บอกว่าน้อง J ไม่ได้ทำงานกับเค้าแล้ว ทาง Immigration Department ก็เลยเห็นว่าจุดประสงค์หลักของผู้ถือวีซ่าได้เปลี่ยนไป ไม่ได้เป็นนักท่องเที่ยวตามที่แจ้งไว้ แต่กลายเป็นตั้งใจมาอยู่ยาว เลยยกเลิกวีซ่าซะเลย (แบบไม่ทันตั้งตัวเลยค่ะ)
หลังจากที่ปริศนากระจ่างแล้ว ทางสปอนเซอร์ก็เดินทางกลับมาที่ Melbourne ก่อนเพื่อมาตั้งหลักและดูว่าจะช่วยแฟนได้อย่างไร ปกติแล้วในกรณีหลังจากที่ถูกยกเลิกวีซ่าแล้ว ผู้สมัครจะถูกแบนไม่ให้เข้าประเทศออสเตรเลียอีกภายใน 3 ปี นอกจากว่าจะได้รับยกเว้นในกรณีพิเศษ case by case นะคะ
แต่สำหรับเคสนี้ เราได้ช่วยน้อง J เค้ากลับมาที่ออสเตรเลียได้ค่ะ ตอนนี้น้องถือ Temporary Partner Visa แล้วกำลังรอ PR อยู่ แต่กว่าจะได้วีซ่ากลับมาก็ไม่ง่ายเลยค่ะ หืดขึ้นคออยู่เหมือนกัน ต้องแสดงหลักฐานความสัมพันธ์เยอะมาก เราเขียนอธิบายเรื่องราวต่าง ๆ พร้อมแก้ต่างเรื่องที่ถูกยกเลิกวีซ่าให้ลูกค้าด้วยค่ะ
บทเรียนจากเคสนี้คือ ถึงแม้ว่าเราไม่ได้ทำผิดกฎวีซ่าแต่ทางเจ้าหน้าที่ก็อาจจะยกเลิกวีซ่าได้ ถ้าเค้าเห็นว่าเจตนาหรือจุดประสงค์ในการเดินทางของเราเปลี่ยนไปค่ะ เคสนี้ยังโชคดีที่ไม่ได้ถูกแบนห้ามเข้าประเทศ 3 ปีนะคะ ถือว่าจบลงด้วยดีค่ะ กว่าจะได้มาอยู่ด้วยกันคู่นี้ก็เสียน้ำตากันไปหลายยกมาก เป็นบททดสอบความสัมพันธ์ครั้งใหญ่เลยค่ะ ยังดีที่จบแบบ Happy Ending นะคะ 😊
Amy @ I-Migration
Registered Migration Agent (MARN 1385337)