Having a baby in Australia: เมื่อคลอดลูกในประเทศออสเตรเลียลูกจะถือวีซ่าอะไร?

Posted on 21 May 2023

Blog Post

สวัสดีค่ะ วันนี้พี่จะมาเขียนถึงเรื่องวีซ่าในกรณีที่คุณแม่คลอดลูกในประเทศออสเตรเลียกันนะคะ เพราะว่าเป็นคำถามที่หลาย ๆ คนสงสัยค่ะ ยังมีบางคนคิดว่าหลังจากที่คลอดลูกในประเทศออสเตรเลียแล้วทาง Department of Immigration ก็น่าจะได้รับแจ้งจากทางโรงพยาบาล และออกวีซ่าให้ลูกตามคุณพ่อคุณแม่อัตโนมัติเลย อันนี้เป็นความเชื่อที่ผิดนะคะ 

ก่อนอื่นสิ่งที่น้องๆควรทำเมื่อคลอดลูกในประเทศออสเตรเลียคือการแจ้งเกิดเพื่อขอใบสูติบัตรของลูกให้เร็วที่สุดเท่าทีเป็นไปได้ค่ะ ซึ่งนอกจากจะแจ้งเกิดกับทางรัฐที่อยู่แล้ว ก็ต้องแจ้งเกิดกับทางสถานทูตไทยหรือสถานกงสุลไทยในออสเตรเลียด้วยค่ะ และจากนั้นจึงขอหนังสือเดินทาง (passport) ให้ลูกได้ ปกติแล้วถ้าคุณพ่อหรือว่าคุณแม่เป็นคนไทย เด็กก็จะได้รับสัญชาติไทยโดยกำเนิดอยู่แล้วค่ะ แต่ระยะเวลาในการรอหนังสือเดินทางส่งกลับมาจากไทยอาจใช้เวลาหลายเดือน ดังนั้นพี่แนะนำว่าน้องๆควรรีบดำเนินการให้เร็วที่สุดค่ะ

ในบทความนี้ พี่จะขอให้ข้อมูลที่เกี่ยวกับการมีลูกในประเทศออสเตรเลียใน 3 กรณีค่ะ

  1. กรณีที่มีลูกขณะที่ถือวีซ่าชั่วคราว (Temporary Visa) คือ กรณีที่ลูกคลอดในประเทศออสเตรเลีย ขณะที่คุณพ่อหรือคุณแม่ คนใดคนหนึ่งไม่ได้เป็นพลเมืองของออสเตรเลีย (Australian citizen)  ไม่ได้ถือวีซ่าถาวร PR และไม่ได้เป็นพลเมืองที่มีสิทธิ์ของนิวซีแลนด์ (eligible New Zealand citizen) ตัวอย่างเช่น คุณพ่อหรือคุณแม่ถือวีซ่าชั่วคราวต่างๆอยู่ เช่น ถือวีซ่านักเรียน (subclass 500) ถือวีซ่าทำงาน (subclass 482)  เป็นต้น ตามกฏหมายแล้วลูกที่เกิดมาจะมีสิทธิ์ถือวีซ่าเดียวกันกับพ่อแม่นะคะ แต่จะต้องแจ้งให้ทางเจ้าหน้าที่ทราบและออกวีซ่าให้ค่ะ 

    สิ่งที่ต้องทำ: น้องๆควรจะต้องแจ้งกับทาง Department of Immigration ว่ามีลูกทันที หรือว่าหลังจากที่ได้รับใบเกิดเลยค่ะ โดยสามารถทำได้หลายวิธี เช่น แจ้งเข้าไปใน Immiaccount และอัพโหลดฟอร์ม 1022 ซึ่งเป็นฟอร์มที่ใช้สำหรับแจ้งอิมมิเกรชั่นเกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงสถานการณ์ต่างๆของผู้ถือวีซ่าค่ะ ทั้งนี้เราจะใช้ฟอร์มนี้เขียนแจ้งว่า เมื่อตอนที่เรายื่นวีซ่าไป ณ ขณะนั้นเรายังไม่มีลูก แต่ตอนนี้เรามีลูกและต้องการจะเพิ่มลูกเข้าไปในวีซ่า พร้อมทั้งยื่นเอกสารประกอบไปด้วย เช่น ใบสูติบัตร (ใบเกิด) ของลูก สำเนาหนังสือเดินทางของพ่อและแม่ หรือว่าของลูกด้วยค่ะ หลังจากนั้น น้องจะได้รับอีเมล์จดหมาย Grant notification ออกวีซ่าให้ลูกค่ะ

  2. กรณีที่มีลูกขณะที่พ่อหรือแม่เป็น PR (permanent resident)  ในกรณีนี้ลูกของน้องๆจะได้สัญชาติออสเตรเลียทันทีที่คลอดออกมา ถึงแม้ว่าหนึ่งในพ่อหรือแม่จะถือวีซ่าชั่วคราวก็ตาม แต่หากอีกคนเป็น PR แล้วลูกที่คลอดมาก็จะได้สิทธ์ถือสัญชาติออสเตรเลียเลยค่ะ เมื่อเด็กคลอดออกมาแล้ว น้องๆควรรีบแจ้งเกิดกับทางรัฐที่อยู่ให้เร็วที่สุด เพื่อนำใบสูติบัตรของรัฐไปใช้สมัครขอใบ citizenship certificate เป็นหลักฐานค่ะ เพราะว่าในอนาคตจะต้องใช้เอกสารนี้ในการทำพาสปอร์ตให้ลูกค่ะ
  3. กรณีที่มีลูกขณะที่วีซ่ายังอยู่ในระหว่างการพิจารณา ในกรณีนี้น้องๆจะต้องแจ้งอิมมิเกรชั่นให้เร็วที่สุดค่ะ เพื่อใส่ชื่อของลูกเข้าไปในใบสมัครวีซ่านั้นๆ พี่แนะนำว่าให้แจ้งทันทีหลังจากที่คลอดลูกเลยค่ะ แล้วค่อยส่งเอกสารใบเกิดตามไปภายหลัง ในจุดนี้หลายคนอาจะสงสัยว่าแล้วการใส่ชื่อลูกเข้าไปในวีซ่าของเราจำเป็นจะต้องยื่นใบสมัครวีซ่าใบใหม่หรือไม่ คำตอบคือ ไม่ต้องกรอกใบสมัครใหม่ค่ะ แต่ต้องกรอกฟอร์ม 1022 แจ้งว่าน้องมีลูกและอยากจะเพิ่มชื่อลูกเข้าไปในใบสมัครซึ่งทำได้ผ่าน Immiaccount ในขั้นตอนนี้ก็ไม่มีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมนะคะ เนื่องจากไม่ถือว่าเป็นการยื่นสมัครวีซ่าใหม่ค่ะ ในกรณีนี้ส่วนใหญ่แล้วคุณพ่อคุณแม่จะถือ Bridging Visa อยู่ด้วย หลังจากที่ได้รับแจ้งเรื่องการเกิด ทางเจ้าหน้าที่ก็จะส่ง Bridging visa grant notice ของลูกตามมาให้ค่ะ อย่างที่อธิบายตามด้านบนไว้ว่าลูกจะถือวีซ่าเดียวกันกับพ่อแม่ในวันที่เกิดมาค่ะ 

    อย่างไรก็ตาม การที่วีซ่าจะได้รับอนุมัติได้นั้น เด็กที่คลอดออกมาจะต้องมีเงื่อนไขตรงตามที่กำหนด ยกตัวอย่างเช่น

  • ถูกเสนอชื่อรวมอยู่ในการสปอนเซอร์ (หากเป็นกรณีของวีซ่าสปอนเซอร์ 457 / 482)
  • มีสุขภาพตรงตามเงื่อนไขที่กำหนด
  • มีหนังสือเดินทาง (passport)

หากน้องๆไม่แจ้งทางอิมมิเกรชั่นเกี่ยวกับเด็กที่คลอด ก็อาจจะมีปัญหาตามมาได้นะคะ เพราะว่าพี่เห็นหลายเคสที่พ่อแม่ไม่ได้รีบแจ้งกับทางเจ้าหน้าที่ หรือว่ายังรอเอกสารใบเกิดกับทางรัฐอยู่ เลยทำให้วีซ่าของพ่อแม่ได้รับการอนุมัติออกมาก่อน ถ้าเจอกรณีแบบนี้ก็อาจจะทำให้เสียเวลาตามวีซ่าของลูกได้ค่ะ เพราะว่าทางเจ้าหน้าที่เค้าปิดเคสเราไปแล้วเพราะไม่ทราบว่าเรามีลูก แต่เราต้องไปติดต่อเจ้าหน้าที่ใหม่เพื่อขอให้เค้าอนุมัติวีซ่าให้ลูกเราด้วย ซึ่งอาจจะทำให้การอนุมัติวีซ่าของลูกล่าช้าไปด้วยค่ะ

นอกจากนี้ยังมีบางเคสที่ผู้สมัครได้ยื่นวีซ่าไปและถูกปฏิเสธ หลังจากนั้นได้ยื่นเรื่องอุทธรณ์ต่อกับทางศาล AAT และหากผู้สมัครคลอดลูกในระหว่างที่รอการอุทธรณ์จะค่อนข้างซับซ้อนค่ะ เพราะว่าทางเจ้าหน้าที่ Department of Immigration ไม่สามารถที่จะใส่ชื่อลูกเข้าไปในใบสมัครวีซ่าได้ เพราะถือว่าวีซ่าที่สมัครไปได้ถูกตัดสิน และสิ้นสุดไปแล้ว แต่ว่ายังไงก็ต้องรีบขอ Bridging visa ให้ลูกก่อนนะคะ ถ้าเกิดกรณีนี้แนะนำว่าให้รีบติดต่อกับทางเจ้าหน้าที่ Department of Immigration หรือว่า Registered Migration Agent ที่เชี่ยวชาญค่ะ

นอกจากทั้ง 3 กรณีที่อธิบายไปแล้ว หากน้องพึ่งคลอดลูกและกำลังจะยื่นสมัครวีซ่าตัวต่อไป น้องจะต้องรีบแจ้งกับทางเจ้าหน้าที่ว่ามีลูกให้เร็วที่สุด ถึงแม้ว่าลูกจะยังไม่มีหนังสือเดินทางก็ตาม เพราะทาง Department of Immigration สามารถเชื่อมข้อมูลวีซ่าของเด็กไปยังหนังสือเดินทางภายหลังได้ พี่เห็นหลาย ๆ คนปล่อยเวลาไปหลายเดือนหรือว่าเป็นปีเนื่องจากเดินทางไปทำเอกสารไม่สะดวก จนทำให้เด็กอยู่ในประเทศออสเตรเลียโดยที่ไม่มีวีซ่า ในกรณีแบบนี้อาจจะมีผลกระทบกับลูกในกรณีที่จะเดินทางไปต่างประเทศค่ะ นอกจากจะเสียเวลาในสนามบินเนื่องจากถูกเจ้าหน้าที่ขอตรวจสอบข้อมูล ยังอาจจะส่งผลกระทบต่อไปยังสถานะการเข้าเมืองของลูกอีกด้วยค่ะ

ส่วนน้องๆ ถ้ามีคำถามอื่นๆเกี่ยวกับวีซ่า ให้ติดต่อเราเพื่อรับคำแนะนำในการสมัครวีซ่าได้ค่ะ โดยสามารถนัดปรึกษาผ่านทาง หน้าเวป ของเราได้เลยค่ะ 

 

Amy Suwinyatichaiporn

Registered Migration Agent (MARN 1385337)

ข้อมูลต่างๆ ในบทความนี้เป็นข้อมูลที่อัพเดทถึงวันที่ 28 เมษายน 2023

section background image

Need Visa Pathway Advice? We're here to help.