Visa Journey: จะเกิดอะไรขึ้นถ้ายื่นผลสอบ IETLS ปลอม?
Posted on 1 March 2024
Posted on 1 March 2024
วันนี้ขอพักเรื่องเครียด ๆ มาเป็นเรื่องเล่าเบา ๆ กันบ้างนะคะ ตั้งแต่ที่เป็น Migration Agent มา 10 กว่าปี พี่เจอลูกค้าที่ใช้ผลสอบ IELTS ปลอมยื่นวีซ่าหลายครั้ง แต่วันนี้จะเล่าถึงเคสที่น่าสนใจมากค่ะ ลูกค้ายืนยันและนอนยันว่าเค้าไปสอบมาเองจริง ๆ ไม่ได้ปลอมแปลงเอกสารตามที่ถูกกล่าวหา 🤔
คุณ G เป็นคุณพ่อชาวโคลอมเบียที่อยู่บนวีซ่านายจ้างสปอนเซอร์ 482 มีภรรยาและลูกสาวสองคนที่ติดตามวีซ่าด้วย บริษัทเราได้ช่วยยื่นเรื่องวีซ่าทำงาน 482 ให้กับคุณ G ไปหลายปีก่อนในตำแหน่ง Wall and Floor Tiler ซึ่งก็ได้รับการอนุมัติอย่างรวดเร็วและหลังจากที่ทำงานครบ 3 ปีแล้วก็ได้รับการติดต่อให้ทำเรื่องสมัคร PR Subclass 186 ต่อค่ะ ซึ่งขั้นตอนทั้งหมดก็เหมือนจะผ่านไปด้วยดีเพราะใบสมัคร 186 Nomination ของทางนายจ้างผ่านภายใน 6 เดือน
แต่ส่วน 186 Visa Application ของคุณ G นั้นรอนานพอสมควร ผ่านไป 12 เดือน ทางลูกค้าก็เริ่มร้อนใจ อีเมลมาตามเราทุกเดือนว่ามีความคืบหน้าอะไรบ้างไหม เราก็บอกว่าสงสัยเคสจะเยอะให้ใจเย็น ๆ รอไปก่อน
ตามแล้วตามเล่า หลังจากที่ผ่านไป 16 เดือนก็ได้รับอีเมลจากทางเจ้าหน้าที่ขอข้อมูลเพิ่มเติม พอเปิดอีเมลมาเราก็ต้องถอนหายใจเฮือก นี่มันอิหยังวะ 5555 ต้องปวดหัวอีกแน่ ๆ 😅
เจ้าหน้าที่แจ้งว่า ผลสอบภาษาอังกฤษ IELTS ที่คุณ G แนบมากับใบสมัครวีซ่า 186 ที่สอบในประเทศโคลอมเบียนั้นมีปัญหา ทางเจ้าหน้าที่ Immigration Department ได้พยายามหา Test Reference Number ในระบบแต่หาไม่เจอ ก็เลยติดต่อกับทางศูนย์การสอบ IELTS โดยตรงเพื่อที่จะคอนเฟิร์ม ทางศูนย์ได้แจ้งกลับมาว่าไม่มี record การสอบของผู้สมัครในประเทศโคลอมเบียเลย!!! อ่านถึงแค่ตรงนี้ก็เข่าอ่อนละ
ที่พีคไปกว่านั้นคือ เจ้าหน้าที่ได้ไปหาไฟล์ผลสอบ IELTS เก่าที่คุณ G ยื่นไปตอนที่สมัครวีซ่า 482 ที่ถืออยู่ซึ่งเค้าได้ไปสอบจากประเทศสเปน หลังจากที่ได้ตรวจสอบก็หาข้อมูลไม่เจอในระบบ ทาง Immigration ก็ไปติดต่อศูนย์การสอบที่สเปน ซึ่งก็ได้รับการยืนยันว่าไม่มีข้อมูลผู้สอบคนนี้เช่นกัน!!!
สรุปคือลูกค้าน่าจะทำผลสอบ IELTS ปลอมขึ้นทั้ง 2 ครั้ง ครั้งแรกใช้ในการยื่นวีซ่าทำงาน 482 ซึ่งบริษัทเราก็เป็นผู้ยื่นให้ (แต่เราไม่ได้ถือว่าเป็นผู้สมรู้ร่วมคิด) และวีซ่า 482 ก็อนุมัติได้มา 4 ปี เค้าก็เลยคิดว่าน่าจะลูกไม้เดิมได้อีกครั้ง แต่ครั้งนี้เจ้าหน้าที่ตรวจสอบมากกว่าเดิม ทำให้ความแตก
หลังจากที่เราติดต่อลูกค้าเพื่อสอบถามความเป็นจริง ลูกค้าก็ไม่ยอมรับเอาหัวเป็นประกันเลยว่าเค้าไปสอบมาจริง ๆ ไปสอบเองทั้งสองครั้ง ไม่ได้ปลอมแปลงเอกสารอะไรทั้งนั้น และก็อ้อนวอนขอให้เราช่วยเหลือ เราบอกว่าถ้าไม่ยอมรับความจริงมาก็จะไม่ช่วย ไม่ตอบอะไรกับทางเจ้าหน้าที่ทั้งสิ้น
ทางเราก็อธิบายไปกับลูกค้าว่า ถ้าให้เอกสารปลอมหรือว่าข้อมูลเท็จในการยื่นวีซ่า นอกจากจะถูกปฏิเสธวีซ่าแล้วอาจจะถูกแบนไม่ให้เข้าประเทศออสเตรเลียอีก 3 ถึง 10 ปีเลย แต่คุณลูกค้าก็ไม่ยอมรับอยู่ดีค่ะ
ผ่านไปสองอาทิตย์ คุณ G ติดต่อมาบอกว่าชั้นจะเปลี่ยนเอเจนท์แล้วนะ จะให้เอเจนท์ใหม่ดูแลแทน ทางเราไม่ต้องยุ่งอะไรกับเคสเค้าอีก 5555 ซึ่งก็เป็นเรื่องดีสำหรับเราเลยค่ะ เราก็เซ็นเอกสารสิ้นสุดการ represent ไป และก็ขอให้เค้าโชคดี
หลังจากนั้น 12 เดือน เนื่องจากเรายังค้างคาใจอยู่ว่าสรุปคุณ G เค้าได้วีซ่ารึป่าว เราเลยไปเช็คเค้าดู สรุปก็คือได้ออกนอกประเทศออสเตรเลียไปแล้วทั้งครอบครัวค่ะ โดยที่วีซ่าก็ถูกปฏิเสธ ทางเจ้าหน้าที่ยืนยันว่าเอกสารที่ให้มาไม่ใช่ของจริงค่ะ
อันนี้มาเล่าให้ฟังนะคะ ว่าตอนนี้ด้วยเทคโนโลยีที่ทันสมัยขึ้น ทาง Immigration เค้าสามารถตรวจสอบเอกสารได้ง่ายขึ้น ผู้สมัครไม่ควรที่จะปลอมแปลงเอกสาร หรือว่าสร้างหลักฐานเท็จใด ๆ ค่ะ ถ้าเค้าตรวจเจอก็ถูกปฏิเสธวีซ่าแน่นอน หลอกเค้าได้ครั้งนึง ก็ไม่ได้ถือว่าจะหลอกได้ครั้งที่ 2 นะคะ
จริง ๆ เรื่องนี้ก็เป็นบทเรียนของบริษัทเราด้วย ว่าจะต้องตรวจสอบเอกสารของลูกค้าให้ถี่ถ้วนมากขึ้นค่ะ และคิดว่ามันจะเป็นบทเรียนราคาแพงของคุณ G ด้วยค่ะ เพราะว่าเสียอนาคตที่นี่ และลูกสาวทั้งสองคนที่อยู่ในวัยเรียนก็ต้องต้องย้ายออกจากโรงเรียนกลับไปที่ประเทศของเค้าค่ะ และจะกลับมาเรียนทีนี่ใหม่ก็ยากมาก ๆ เพราะว่าถูกแบนไปแล้วค่ะ
Amy @ I-Migration
Registered Migration Agent (MARN 1385337)